เมียนมายอมรับ ล้มเหลวในการแก้ปัญหายาเสพติด

เมื่อวานนี้ทางการเมียนมาได้ทำการเผาทำลายยาเสพติดปริมาณมหาศาลที่มีทั้งเฮโรอิน กัญชา ยาบ้า และ ฝิ่น ที่เมืองย่างกุ้งอดีตเมืองหลวงของประเทศ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมวันต่อต้านยาเสพติดที่โลกที่จัดขึ้นในวันที่ 26 มิ.ย.ของทุกปี

นอกจากเมืองย่างกุ้งแล้ว หลายเมืองของเมียนมาได้ทำการเผายาเสพติดเช่นกัน โดยเจ้าหน้าที่ระบุว่ามูลค่าของยาเสพติดที่ถูกเผาทำลายเมื่อวานนี้มีมูลค่าร่วมกันถึง 446 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 15,000 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการกลางป้องกันยาเสพติดของเมียนมายอมรับว่าแม้จะมีการจับกุมและดำเนินคี ผู้เสพ ผู้ค้า และ เครือข่ายขนส่งยาเสพติดเป็นจำนวนนับไม่ถ้วน แต่การผลิต และ การลักลอบค้ายาเสพติดกลับไม่ลดน้อยลงเลย

โดยสามเหลี่ยมทองคำซึ่งตั้งอยู่บนรอยต่อ 3 ประเทศคือเมียนมาลาว และ ไทย ยังเป็นพื้นที่สำคัญในการผลิตและเป็นต้นทางจำหน่ายยาเสพติด โดยเฉพาะยาบ้าและฝิ่น

ขณะที่นักวิเคราะห์มองว่ารัฐบาลเมียนมาชุดปัจจุบัน ซึ่งเป็นรัฐบาลทหารไม่มีความจริงจังเกี่ยวกับการยุติปัญหากาค้ายาเสพติด ซึ่งจากข้อมูลของสหประชาชาติ ระบุว่ารัฐฉานเป็นแหล่งผลิตยาบ้าแหล่งใหญ่ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

และที่เลวร้ายไปกว่านั้นคือกองทัพเมียนมาได้ทำหน้าที่เป็นผู้คุ้มครองแก๊งค้ายาเสพติดเสียเอง ซึ่งเกิดขึ้นมาเป็นเวลานานหลายปีแล้ว

นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า สถานการณ์ความไม่สงบทางการเมืองที่เกิดเหตุรุนแรงต่อเนื่องในเมียนมา หลังการก่อรัฐประหารยึดอำนาจจากรัฐบาลพลเรือนเมื่อ 2 ปีก่อน ทำให้เกิดการปะทะกันอย่างรุนแรงระหว่างรัฐบาลทหารและกลุ่มต่อต้านที่เรียกร้องประชาธิปไตย คือ ปัจจัยที่ทำให้การผลิตยาเสพติดในประเทศพุ่งสูงขึ้น

ข้อมูลในรายงานยาสังเคราะห์ในเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ประจำปี 2023 ของสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ หรือUNODC ระบุว่า “ราคาขายส่งและราคาขายตามท้องถนนของ ยาบ้าเม็ด ทั่วทั้งภูมิภาค ยังคงอยู่ที่ระดับต่ำเป็นประวัติการณ์ในปี 2022”

รายงานดังกล่าว พบว่า สถานการณ์ยาเสพติดในเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้น มีการยึดยาเสพติดได้เพิ่มขึ้น โดย “ยาบ้ายังคงเป็นยาเสพติดที่พบมากที่สุด

นอกจากจะเป็นแหล่งผลิยาบ้ารายใหญ่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แล้ว เมียนมายังเป็นผู้ผลิตฝิ่นรายใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองของโลก ตามหลังเพียงอัฟกานิสถาน และเป็นแหล่งผลิตฝิ่นสำคัญสำหรับพื้นที่ส่วนใหญ่ของเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

 เมียนมายอมรับ ล้มเหลวในการแก้ปัญหายาเสพติด

โดยเมื่อเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา UNODC ได้รายงานว่า ผลผลิตฝิ่นในเมียนมาตอดปี 2022 ได้เพิ่มมากขึ้นเป็นสถิติใหม่ ตั้งแต่มีการเก็บข้อมูลการปลูกมาในปี ค.ศ. 2002

เจเรมี ดักกลาส ตัวแทน UNODC ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิก เชื่อว่า สาเหตุหลักที่อัตราการปลูกต้นฝิ่นเพิ่มขึ้นนั้นเป็นเพราะเศรษฐกิจของเมียนมาที่ล่มสลายหลังการก่อรัฐประหารของกองทัพในเดือนกุมภาพันธ์ปี ค.ศ. 2021

ดักกลาส ให้ความเห็นว่า ฝิ่นนั้นเป็นแหล่งจ้างงานสุดท้ายในเมียนมามานานหลายสิบปีแล้ว” และคนจำนวนมากไม่มีทางเลือกแต่ต้องกลับมาปลูกฝิ่นเพราะไม่มีอาชีพอื่นให้ทำ โดยเมืองใหญ่ต่างๆเช่น ย่างกุ้ง หรือ มัณฑะเลย์ และส่วนอื่น ๆ ของประเทศไม่มีการจ้างงานอีกต่อไป ทำให้ผู้คนต้องกลับไปชนบทเพื่อทำไร่

You May Also Like

More From Author